ส.ก.ป.
ช่วงบ่ายวันที่ 15 สิงหาคม กรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยา รายงานสถานการณ์อุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาทั่วประเทศตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ปัจจุบันสภาพบรรยากาศและมหาสมุทรอยู่ในสภาวะเอลนีโญ
เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติในพื้นที่อำเภอมู่กังไจ ( เยนไป๋ ) ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 เตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติจะรุนแรงขึ้นเมื่อมีพายุ |
คาดการณ์ว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปรากฏการณ์เอลนีโญจะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีความน่าจะเป็นประมาณ 85-95% คาดว่าตั้งแต่ครึ่งหลังของเดือนสิงหาคมถึงเดือนพฤศจิกายน 2566 จะมีพายุหรือพายุดีเปรสชันเขตร้อนเกิดขึ้นในทะเลตะวันออกประมาณ 5-7 ลูก ซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ 2-3 ลูกจะส่งผลกระทบต่อแผ่นดินใหญ่ของประเทศโดยตรง สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่า "โปรดระวังพายุที่มีพัฒนาการที่ซับซ้อนทั้งในด้านทิศทางและความรุนแรง"
นายฮวง ฟุก เลม รองผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์อุทกวิทยาแห่งชาติ กล่าวว่า คลื่นความร้อนจะยังคงเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคกลางในช่วงครึ่งหลังของเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 โดยจำนวนวันที่อากาศร้อนจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยของหลายปีในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วนในเดือนกันยายน คลื่นความร้อนก็มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคกลางเช่นกัน โดยมีความรุนแรงลดลงและไม่นานนัก
เดือนกันยายน พ.ศ. 2566 เนื่องจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ นอกชายฝั่งจังหวัดคานห์ฮวาถึง บิ่ญถ่วน และบริเวณภาคกลางทะเลตะวันออก คลื่นสูง 2-3 เมตร ทะเลมีคลื่นแรง
นักอุทกวิทยาวัดระดับน้ำท่วมในแม่น้ำ ภาพ: HOAI LINH |
ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 พื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้จะประสบกับน้ำขึ้นสูง 5 ครั้ง ได้แก่ ระยะที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 ถึง 3 กันยายน ระยะที่ 2 ระหว่างวันที่ 29 กันยายนถึง 3 ตุลาคม ระยะที่ 3 ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคมถึง 1 พฤศจิกายน ระยะที่ 4 ระหว่างวันที่ 13 ถึง 18 พฤศจิกายน และระยะที่ 5 ระหว่างวันที่ 25 ถึง 30 พฤศจิกายน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำขึ้นสูงสุดตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม อาจสูงถึง 4.2 เมตร หากรวมกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ น้ำขึ้นสูงสุดนี้อาจเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำของจังหวัดชายฝั่งทะเลในภาคตะวันออกเฉียงใต้
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)