ตลาดสมาร์ทวอทช์ที่ซบเซาได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่อ่อนแอในอินเดีย ขณะเดียวกัน การผลิต Apple Watch ก็ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ส่งผลให้ตลาดโดยรวมตกต่ำลง

ในไตรมาสแรก Apple ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดสมาร์ทวอทช์ระดับโลก (ภาพ: CNet)
แม้ยอดขายจะลดลง แต่ Apple ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จำนวน Apple Watch ที่จัดส่งในไตรมาสแรกคิดเป็น 20% ของส่วนแบ่งตลาด ลดลง 9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2024
หัวเว่ยและเสี่ยวหมี่ครองอันดับสอง (ส่วนแบ่งตลาด 16%) และอันดับสาม (ส่วนแบ่งตลาด 10%) ตามลำดับ ยอดขายของสองยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 53% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว Counterpoint Research ระบุว่าความสำเร็จนี้มาจากกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและการมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ราคาประหยัด
ในขณะเดียวกัน Samsung อยู่ในอันดับที่ 4 ของโลกด้วยส่วนแบ่งตลาด 7% โดยยอดจัดส่งของ Samsung ลดลง 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในปี 2024 ส่วนอันดับที่ 5 คือแบรนด์ Imoo ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาด 7%
ตลาดจีนเติบโตขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากผลงานที่แข็งแกร่งของแบรนด์ต่างๆ เช่น Huawei, Imoo และ Xiaomi
แบรนด์เหล่านี้ไม่เพียงแต่เสริมสร้างตำแหน่งของตนในตลาดภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังได้รับแรงผลักดันในตลาดต่างประเทศอีกด้วย” Anshika Jain นักวิเคราะห์อาวุโสของ Counterpoint Research กล่าว
ตามที่ผู้เชี่ยวชาญระบุ ตลาดสมาร์ทวอทช์ทั่วโลกกำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในแนวโน้มการช้อปปิ้งของผู้บริโภค
ผู้บริโภคยินดีจ่ายมากขึ้นสำหรับอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติที่ดีกว่าและใช้งานได้ยาวนานกว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์ราคา 100-200 ดอลลาร์สหรัฐฯ มียอดจัดส่งเพิ่มขึ้น 21%

ผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์ระดับไฮเอนด์มากขึ้น (ภาพ: The Anh)
“ตลาดสมาร์ทวอทช์สำหรับเด็กยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก แบรนด์ Imoo ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำด้วยผลิตภัณฑ์ที่ราคาไม่แพงและอัดแน่นด้วยฟีเจอร์มากมาย” บัลเบอร์ ซิงห์ นักวิจัยจาก Counterpoint Research กล่าว
คาดว่าตลาดสมาร์ทวอทช์จะค่อยๆ ฟื้นตัวและเติบโตเล็กน้อยประมาณ 3% ในปี 2568 โดยการฟื้นตัวนี้ขับเคลื่อนโดยฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น AI และเซ็นเซอร์สุขภาพรุ่นถัดไป
“ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับฟีเจอร์ติดตามสุขภาพและคุณค่าในระยะยาวมากขึ้น แนวโน้มนี้กำลังผลักดันให้ตลาดหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์มากขึ้น” เจนกล่าว
ที่มา: https://dantri.com.vn/cong-nghe/buc-tranh-thi-phan-dong-ho-thong-minh-toan-cau-20250708000411104.htm
การแสดงความคิดเห็น (0)