การแข่งขันระหว่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย) และเจ้อเจียง (จีน) ในศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เมื่อค่ำวันที่ 29 พฤศจิกายน จบลงด้วยฉากที่น่าเกลียด หลังจบการแข่งขัน นักเตะของทั้งสองทีมได้ปะทะกันอย่างดุเดือด ก่อให้เกิดความวุ่นวาย
เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทที่สนามกีฬาหูโจวส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของฟุตบอลเอเชีย (ภาพ: โซหู)
เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกและฟุตบอลเอเชีย ล่าสุด เอเอฟซีได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบสวนเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทครั้งนี้ หน่วยงานที่มีอำนาจสูงสุดของวงการฟุตบอลเอเชียกำลังรวบรวมภาพและหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทดังกล่าว
เลขาธิการ AFC วินด์เซอร์ จอห์น กล่าวว่า "AFC จะไม่ทนต่อพฤติกรรมรุนแรงใดๆ ที่คุกคามผู้เล่นหรือสมาชิกทีม เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเล่นอย่างยุติธรรม ความเคารพซึ่งกันและกัน และ น้ำใจนักกีฬา ที่ดี"
AFC ยืนยันว่าจะไม่ยอมรับการกระทำรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น เราไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงโทษทางวินัยใดๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คณะกรรมการจริยธรรมและวินัยและสำนักเลขาธิการต้องพิจารณา
สมาคมฟุตบอลจีนยังยืนยันด้วยว่าจะให้ความร่วมมือกับ AFC ในการสอบสวน หน่วยงานระบุว่า "ความขัดแย้งที่สนามกีฬาหูโจวได้ละเมิดเจตนารมณ์ของนักกีฬาอย่างร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสนาม และสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดี"
เอเอฟซีประกาศลงโทษนักเตะและโค้ชผู้เกี่ยวข้องกรณีทะเลาะวิวาทอย่างรุนแรง (ภาพ: โซฮู)
สมาคมฟุตบอลจีนขอคัดค้านความรุนแรงทุกรูปแบบในสนามอย่างแข็งขัน เราจะช่วยเหลือสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียในการสืบสวนเหตุการณ์นี้
สมาคมฟุตบอลจีนจะเสริมสร้างการบริหารจัดการของสโมสรและหน่วยงานที่เข้าร่วมทุกระดับ และเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง แต่ละทีมต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดเมื่อเข้าร่วมการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเสริมสร้าง การศึกษา ของผู้เล่น โค้ช และเจ้าหน้าที่
ในเวลาเดียวกันพวกเขาต้องเคารพการตัดสินใจของผู้ตัดสินและฝ่ายตรงข้าม รักษาความสงบเรียบร้อยในสนามอย่างมีสติ และแสดงให้เห็นถึงน้ำใจนักกีฬาของฟุตบอลจีน"
คาดการณ์ว่า เอเอฟซี น่าจะลงโทษทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เจ้อเจียง อย่างหนัก
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)